จากรายงาน "China Times Newsletter" ในวันที่ 12 มีนาคมทีมวิจัยและพัฒนาของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์และเครือจักรภพฟิวชั่นซิสเต็มส์ (CFS) ได้ค้นพบวัสดุชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติเป็นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าพวกเขาเชื่อว่านี่เป็นอนาคตของการผสมนิวเคลียร์ กุญแจสู่เครื่องปฏิกรณ์และเชื่อว่าภายใน 15 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีการผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชั่น
รายงานของ "Guardian" ของอังกฤษระบุว่าสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์และ Commonwealth Fusion Systems Corporation (บริษัท เอกชน) ได้ค้นพบสูตรสนามแม่เหล็กใหม่ที่ใช้สารตัวเติมออกไซด์ที่เคลือบด้วยพลวงบิสมัทและทองแดง วัสดุสามารถปรากฏตัวนำยิ่งยวดที่อุณหภูมิประมาณ 223 องศาเซลเซียสซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวนำยิ่งยวดอุณหภูมิสูงเนื่องจากตัวนำยิ่งยวดส่วนใหญ่ต้องอยู่ใกล้กับศูนย์สัมบูรณ์ (-273 องศา) จึงจะทำงานได้
การค้นพบนี้ช่วยให้สามารถสร้างแม่เหล็กขนาดเล็กพลังงานสูงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการหลอมรวมนิวเคลียร์ที่มีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีนี้จะได้รับการทดสอบในการทดลองจำลองที่เรียกว่า 'Sparc' ขนาดของมันมีขนาดเล็กกว่าของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ (ITER) ซึ่งเป็นเพียงประมาณ 1/64 ของ ITER แต่นักวิทยาศาสตร์ของ MIT ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะประสบความสำเร็จมากกว่า ITER พวกเขาหวังว่าจะสร้างพลังงานได้ 100 เมกะวัตต์
ศาสตราจารย์ Maria Zube จาก MIT กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเราบรรลุทิศทางการพัฒนาที่น่าเชื่อถือและเป็นไปได้และจะตระหนักถึงการประยุกต์ใช้การหลอมนิวเคลียร์ในทางปฏิบัติแล้วระบบพลังงานของโลกจะเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์"
มีรายงานการแนะนำว่านิวเคลียร์ฟิวชันเป็นดวงอาทิตย์ส่องแสงในหลักการ แต่ยังวิทยาศาสตร์พลังงาน 'สุดยอดจอกศักดิ์สิทธิ์' แต่เพื่อให้เกิดการควบคุมนิวเคลียร์ฟิวชันสามารถของค่อนข้างยากเพราะต้องใช้อุณหภูมิสูงมากและความกดดันมาก
แต่ความยากลำบากในสภาพแวดล้อมของโลกและมากขึ้นเพราะเราไม่ได้มีดวงอาทิตย์แรงโน้มถ่วงที่แข็งแกร่งดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มอุณหภูมิไปกว่า 100 ล้านองศา แต่วิธีนี้พวกเขาไม่ถือภาชนะใด ๆ ที่สามารถถือดังกล่าวเป็นอำนาจที่อุณหภูมิสูงดังนั้นนักวิทยาศาสตร์คิดว่าสนามแม่เหล็ก 3. พลาสมาแม่เหล็กถูกพันรอบพลาสม่าเพื่อทำปฏิกิริยาฟิวชั่นนิวเคลียร์
แม้ว่าพลาสมาพลาสม่าจะพังพินาศผ่านสนามแม่เหล็กที่อ่อนแอดังนั้นจึงไม่ประสบความสำเร็จจากการปฏิบัติตามทฤษฎีเนื่องจากการศึกษาการหลอมรวมนิวเคลียร์เริ่มขึ้นในปี 1950 นักวิทยาศาสตร์ได้รับการยกย่องให้เป็นเสมือนพ่อของ: เป้าหมายไม่สามารถเข้าถึงได้